หากมาเยี่ยมเยือนประเทศฝรั่งเศส แต่ไม่มีรูปถ่ายแอ็คท่ากับหอไอเฟล หรือ กลับไปอวดเพื่อนฝูงญาติพี่น้องล่ะก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงฝรั่งเศสนั่นเอง
“ลา ตูค์ อิฟเฟล” (La Tour Eiffel) ในภาษาฝรั่งเศส หรือ หอไอเฟล ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ใครที่มาเที่ยวปารีสเป็นต้องไม่พลาดการถ่ายรูปคู่กับหอไอเฟล
เรามาทำความรู้จักกับหอไอเฟลกันนิดนึง หอไอเฟลเป็นหอคอยสร้างด้วยโครงเหล็ก สูงถึง 300 เมตร ตั้งอยู่บนถนน ชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอคอยแห่งนี้เป็นเสมือนสัญญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ คือ“กุสตาฟ ไอเฟล” เป็นวิศวกรและสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นปรมาจารย์ในด้านการก่อสร้างด้วยเหล็กและมีความสามารถในการสร้างสะพาน เป็นต้นว่า สะพานข้ามแม่น้ำดูโร (Douro) ในตอนเหนือของประเทศโปรตุเกส ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสะพานที่มีช่วงกว้างที่สุดในเวลานั้น ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นงานศิลปะชิ้นเอกในงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพในปี ค.ศ.1890 เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ ความร่ำรวย และความสำเร็จในยุคอุตสาหกรรมของประเทศ
ภาพวิวัฒนาการการก่อสร้างหอไอเฟล
ในสมัยนั้น หอไอเฟลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากมีการออกแบบการก่อสร้างที่มีความผิดแผกแตกต่างจากการสิ่งก่อสร้างในอดีต ไม่เข้ากับอาคารบ้านเรือนและโบสถ์เก่าแก่ในเมือง ดูแล้วไร้ซึ่งความเป็นศิลปะ และทำลายทัศนียภาพของกรุงปารีส ถึงกับถูกศิลปินแขนงต่างๆ ประณามว่า “หอไอเฟลคือความอัปลักษณ์บนใบหน้าของปารีส” เลยทีเดียว แต่ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและยาวนาน ชาวบ้านก็ชื่นชอบหอไอเฟลมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดออกมาโห่ร้องให้กำลังใจ ตอนที่กุฟตาฟ ไอเฟล เดินขึ้นบันได 1,710 ขั้น เพื่อนำธงชาติฝรั่งเศสไปประดับไว้บนยอดสูงสุดของหอคอย (และแน่นอนว่าเขาเป็นคนแรกที่เดินขึ้นไป!) จากตอนแรกที่รัฐบาลตั้งใจว่าจะจัดแสดงศิลปะเอกชินนี้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น แบบว่าจบงานแล้วก็รื้อทิ้ง กลายเป็นว่าสุดท้ายทางการสื่อสารมวลชนของประเทศก็ตัดสินใจให้เก็บหอไอเฟลไว้ใช้เป็นสถานีรับส่งสัญญาณวิทยุ ต่อมามีการสร้างศูนย์วิทยุขึ้นอย่างถาวร และยังคงใช้มาถึงปัจจุบันนี้ ในที่สุดงานศิลปะชั่วคราวก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกเป็นเวลากว่า 40 ปี (ค.ศ. 1889-1930) และเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก!
แปลก และ แหวกแนว สโลแกนของเขาล่ะ ขอแทรกความคิดสักนิดว่ากว่าจะเป็นหอไอเฟลอันโด่งดังในวันนี้ได้ นายกุสตาฟต้องฝ่าฟันคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย จึงขอให้กำลังใจคนที่กำลังคิดการณ์ไกลสักหน่อย
“คนที่เริ่มสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ จึงไม่ควรท้อใจถ้าหากถูกทักว่าไม่เข้าท่า…หรือเป็นไปไม่ได้…” – ว.วชิรเมธี
ภาพกลางวัน สวยแบบคมชัด ท้องฟ้าสีสดใส
มาดูแบบเปิดไฟตอนกลางคืนกันบ้าง สวยโรแมนติกไปอีกแบบเลย วะวะว้าวววว ^^
FUN FACTS
หอไอเฟลสร้างเสร็จ และมีพิธีเปิดวันที่ 31 มีนาคม 2432 และกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนอนุสาวรีย์วอชิงตัน จนกระทั่งเสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ไปในปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930)
หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในกรุงปารีส ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น
หอไอเฟลแกว่งตัวได้ตามแรงลม แกว่งได้ถึง 6-7 เซ็นติเมตร!
จุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่ดีที่สุด คือ ลานหน้าปราสาท Palais de Chaillot ใกล้ๆ กับสถานี Trocadéro จากมุมนี้ จะเห็นภาพหอไอเฟลแบบเต็มจอ ไม่มีต้นไม้ เสาไฟฟ้าบังให้เสียอารมณ์ (จะมีก็คือคนอื่นๆ ที่เข้ามาปนอยู่ในกล้องเรา) นักท่องเที่ยวแอ็คท่ากันสุดชีวิต ท่าพิงหอ แบกหอ จับหอ แล้วแต่ใครจะครีเอท เป็นที่เฮฮาของผู้พบเห็นยิงนัก (ซึ่งก็คือนักท่องเที่ยวรายอื่นๆ นั่นเอง อิอิ)
เมื่อไปถึงแล้ว ไม่ต้องอาย จัดเต็มไปเลย อุตส่าห์มาตั้งไกล รับประกันความประทับใจและความฮา กล้าๆ เข้าไว้ ถ่ายเสร็จเราก็ชิ่ง ใครก็จำเราไม่ได้ แล้วเราก็จะได้มีภาพถ่ายคู่กับหอไอเฟลเป็นที่ระลึกแบบสร้างสรรค์ ไม่ซ้ำใคร อย่างนี้ เป็นต้น ^^
วิธีเดินทาง Metro หรือรถไฟใต้ดิน สาย 6 หรือ 9 ลงสถานี Trocadéro
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น