วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วันชาติฝรั่งเศส


 วันชาติฝรั่งเศส 
14 กรกฎาคม

ย้อนไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1789 กองทัพทหาร และประชาชนได้พร้อมใจกันบุกคุกบาสติลย์ (Bastilles) เพื่อปลดปล่อย นักโทษ การเมือง ให้เป็นอิสระ อันคุกบาสติลย์นี้ถือว่าเป็นเครื่องหมายของการบีบบังคับและความอยุติธรรม ซึ่งเกิดจากการปกครอง โดยกษัตริย์ ที่ไร้ ทศพิธราชธรรม จึงประกาศวันที่ได้รับการปลดปล่อยนี้ให้เป็น..วันชาติของฝรั่งเศส (La Fête Nationale)

เมื่อหลายร้อยปีก่อน ประเทศฝรั่งเศสมีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จนกระทั่งถึงปลายศตวรรษที่ 16 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งราชวงศ์บูรบอง (Bourbon)บ้านเมืองอยู่ในระยะของสงครามอังกฤษ เพื่อแย่งชิงอาณานิคม ทำให้การเงินการคลังของประเทศล้มละลาย ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างอัตคัดขาดแคลน แต่ในทางกลับกัน ราชสำนักกลับมีความเป็นอยู่อย่างหรูหรา ฟุ่มเฟือย ชนชั้นขุนนางได้รับการยกเว้น ภาษี ส่วนประชาชน ที่มีความยากจนอยู่แล้วต้องถูกทางการรีดภาษีอย่างหนัก ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมาก

ในตอนนั้น ชนชั้นกลางมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เนื่องจากชนกลุ่มนี้มีการศึกษาดี ร่ำรวย แต่ไม่มี สิทธิในทาง การเมือง การปกครอง เทียบเท่าชนชั้นพระ และชนชั้นขุนนาง จึงต้องการเปลี่ยนแปลงระบบเก่า และได้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจเอาไว้ โดยเข้าร่วม การปฏิวัติในอเมริกา ซึ่งมีสาระสำคัญในทางทฤษฎีว่าด้วยสิทธิิ ตามธรรมชาติิของมนุษย์ และสองนักปราชญ์แห่งยุคคือ วอลแตร์ กับ มองเตสกิเออ นำทฤษฎีดังกล่าวมาสอนประชาชน ในขณะเดียวกัน มาควิส เดอ ลา ฟาแยตต์ (Marquis de la Fayett) ซึ่งทำสงคราม ช่วยเหลือ ชาวอาณานิคม ในอเมริกาต่อต้านอังกฤษจนได้ชัยชนะ ก็นำความคิดนี้มาเผยแพร่ จึงทำให้ ประชาชนชาวฝรั่งเศส ดิ้นรนเรียกร้อง ให้ได้มาซึ่งสิทธิและเสรีภาพ
ยิ่งขึ้น    

เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1789 ประชาชนซึ่งมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ได้บุกเข้าปล้นสะดมบ้านของพวกขุนนาง กรุงปารีสมีแต่่ ความวุ่นวาย ชนชั้นกลางได้รวมตัวกันก่อตั้งกองทหารรักษาการณ์แห่งชาติเข้าร่วม กับประชาชนทำลายคุกบาสติลย์ ซึ่งเท่ากับว่า เป็นการปลดแอกอำนาจการปกครองโดยกษัตริย์ นับเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ยิ่ง และสำคัญของโลก

ผลกระทบของเหตุการณ์ได้แพร่ไปสู่ประเทศอื่นๆในยุโรป โดยเฉพาะในรัสเซีย กล่าวคือระยะแรกของการปฏิวัติ ประมาณปี ค.ศ. 1791ได้มีการ ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใช้ กษัตริย์ต้องอยู่ใต้กฎหมาย และรัฐสภา ก็มีเพียงสภาเดียว คือ สภานิติบัญญัติ   ชนชั้นกรรมาชีพมีบทบาทในการปกครอง  แต่ด้วยความเกรงกลัวว่า การล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ์จะแพร่ขยายไปทั่วยุโรป ทำให้ออสเตรียและปรัสเซียยกทัพรุกฝรั่งเศสแต่ไม่สำเร็จ ทางสภานิติบัญญัติจึงยกเลิกระบบ ราชาธิปไตยและประกาศเป็นประเทศสาธารณรัฐ เมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 1792 และตั้งสภาใหม่ขึ้นมา และในปี 1793 ก็ได้สำเร็จโทษพระเจ้าหลุยส์และพระนางมารี อังตัวเนต์ด้วยการประหารชีวิตด้วยเครื่องประหาร กิโยตีน แม้ผลการปฏิวัติจะสำเร็จ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังมีฐานะยากจนเหมือนเดิม รัฐบาลยังมุ่งแต่กอบโกยผลประโยชน์กัน จนมีบุคคลคนหนึ่งแสวงหาอำนาจโดย เป็นเครื่องมือ ให้ประชาชนเลื่อมใส และยึดอำนาจการปกครองมาเป็นของตน บุคคลผู้นี้คือ นโปเลียน โบนาปาร์ต 

    

นโปเลียนได้กลายเป็นวีรบุรุษของชาติเพราะอาศัยความล้มเหลวของรัฐบาลสถาปนาตนเป็นแม่ทัพใหญ่คุมกองทัพ ออกไปรบชนะออสเตรเลียในปี ค.ศ.1797 ทั้งยังแพร่ขยายอาณาเขตไปทั่วยุโรป   จนปี ค.ศ. 1804 ได้สถาปนาตนเอง ขึ้นเป็นจักรพรรดินโปเลียน และพยายาม ที่จะครอบครอง รัซเซียให้ได้ จึงทำสงคราม กับรัสเซีย และเป็นครั้งแรก ที่นโปเลียนแพ้ ทำให้ชนชาติต่างๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสเกิดกำลังใจที่จะต่อต้าน เมื่อนโปเลียน ได้ถูกเนรเทศไปยังเกาะอัลบา พระเจ้าหลุยส์ได้กลับมาครองราชย์ใหม่แต่เพียงระยะสั้นๆ ในปี ค.ศ.1815 นโปเลียนหนีกลับมาได้ อีกครั้งและประกาศตนเป็นจักรพรรดิ รวบรวมกำลังทหารเข้าต่อสู้กับ ฝ่ายพันธมิตร ต่างๆ เกิดสงครามวอเตอร์ลูขึ้น แต่ฝรั่งเศสก็รบแพ้ ทำให้ นโปเลียนถูกส่งขังที่เกาะเซนต์เฮเลนา นับเป็นการสิ้นสุดการครอง บัลลังก์เพียง 100 วันของนโปเลียน แล้วเขาก็เสียชีวิตบนเกาะนี้


ในปี ค.ศ. 1821  พระ เจ้าหลุยส์ที่ 18 กลับมาขึ้นครองราชย์อีกครั้ง แต่พระอนุชาคือ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 ทรงพยายาม ฟื้นฟูระบบเก่าขึ้นมาอีก จึงมีการปฏิวัติขึ้นอีก พระเจ้าหลุยส์ฟิลิปซึ่งดำรงตำแหน่งกษัตริย์อยู่ ได้ถูกเนรเทศออกนอก ประเทศ และต่อมาก็ได้มีการสถาปนา สาธารณรัฐขึ้น เป็นครั้งที่ 2 โดยมีหลุยส์นโปเลียนทำการรัฐประหารตั้งตัวเองขึ้น เป็นจักรพรรดิ ซึ่งพระองค์ทำให้ชาติฝรั่งเศสมีความเข้มแข็ง มั่นคงขึ้น สภาพทุกอย่าง ในประเทศดีขึ้น และมีการขยาย อาณานิคมไปยังประเทศต่างๆ    

ในปี ค.ศ. 1860 พระเจ้าหลุยส์นโปเลียน สถาปนาจักรพรรดิฝรั่งเศสในเม็กซิโกแต่ไม่สำเร็จ เพราะ ถูกอเมริกา ขัดขวางไว้ และยังต้องทำ สงคราม กับปรัสเซียอีก ฝรั่งเศสก็เป็นฝ่ายแพ้อีกครั้งและต้องเสียดินแดนในแคว้นอัลซาสให้แก่ ปรัสเซีย อีกด้วย ซึ่งทำให้พระองค์ต้องสละราชบัลลังก์    

ในปี ค.ศ.1875 มีการสถาปนาฝรั่งเศสเป็นครั้งที่ 3 ยุคของนโปเลียนสิ้นสุดลง ทำให้ประเทศฝรั่งเศสอ่อนแอ เป็นอย่างมาก ต้องเสียดินแดน ให้ผู้รุกราน ประจวบกับเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น เป็นเหตุให้ฝรั่งเศส ยิ่งบอบช้ำ ขึ้นไปอีก ภายหลัง ได้มี ีการเซ็นสัญญาสงบศึกที่ Vinchy แล้วฝรั่งเศสก็ประกาศตัวเป็นอิสรภาพ โดยความช่วยเหลือ จากฝ่ายพันธมิตรต่างๆ ในเดือนกันยายนปี 1944 นายพลชาลส์เดอโกล์ ก็ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาล ในปี ค.ศ.1946 ซึ่งเป็นยุคของสาธารณรัฐที่ 4

ระหว่างปี ค.ศ. 1946-1958 นายพลเดอโกล์ กลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำอีกครั้ง ระหว่างที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมวิกฤติการณ์ใน แอลจีเรีย เขาทำให้ ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีสังคม เปลี่ยนไปสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยี และพัฒนาฝรั่งเศสดีขึ้นในหลายๆด้าน ทำให้เป็นที่ ยอมรับจากผู้คนที่นิยมในตัวเขา และให้สถาปนาฝรั่งเศส เป็นสาธารณรัฐ เป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1958-ปัจจุบัน ต่อมามีการชุมนุม ประท้วง รัฐบาลในกรุงปารีส ทำให้รัฐบาล ต้องยอมรับมติประชาชนที่ว่าด้วยการปฏิรูป กฎหมาย รัฐธรรมนูญนายพลเดอโกล์จึงขอลาออกจากตำแหน่ง    

ในวันที่ 10 พ.ค. ปี ค.ศ. 1981 ฝรั่งเศสได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้ง คือประธานาธิบดีฟรังซัวส์ มิตแตร์รองด์ ผู้สมัครจากพรรค สังคมนิยม จึงบริหารงานด้วยระบอบสังคมนิยม และอยู่ในต่ำแหน่ง 14 ปีด้วยกัน จนกระทั่งมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่ึงทำให้ นายฌาคส์ ชีรัค ผู้สมัครจาก พรรคสังคมนิยมเช่นเดียวกันเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง เข้ารับการเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.1995    

สำหรับความสัมพันธ์ของไทยและฝรั่งเศสนั้น มีมาตั้งแต่ สมัยกรุงศรีอยุธยาในรัชสมัยของ สมเด็จ พระนารายณ์มหาราช แต่ก็ต้องสิ้นสุดลง เพราะ การเมือง การปกครองของฝรั่งเศสกำลังวุ่นวาย .. ในสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้น ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสไม่ราบรื่น เพราะไทยพอใจทำการค้า กับจีน และมลายูมากกว่าประเทศ ทางยุโรป


นถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฝรั่งเศสเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่จุดประสงค์ คือต้องการที่จะให้ไทยเป็นเมืองขึ้น แต่ด้วย พระปรีชาสามารถของพระองค์ทำให้รอดพ้นเหตุการณ์นั้นมาได้




 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

L'arc de Triomphe

ประตูชัยฝรั่งเศส

ประตูชัยฝรั่งเศส 
     ประตูชัยฝรั่งเศส เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ หรือ จัตุรัสแห่งดวงดาว อยู่ทางทิศตะวันตกของชองป์เซลิเซ่ส์ ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน และในปัจจุบันยังเป็นสุสานของทหารนิรนามอีกด้วย ประตูชัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "แนวเส้นตรงทางประวัติศาสตร์" ซึ่งเป็นถนนเส้นตรงจากสวนพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปยังชานเมืองปารีส ประตูชัยแห่งนี้ออกแบบโดย ฌอง ชาลแกร็งในปี พ.ศ. 2349 โดยมียุวชนเปลือยชาวฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับทหารเยอรมัน เต็มไปด้วยเคราและใส่เกราะเป็นสัญลักษณ์เพื่อเป็นการปลุกใจ และเป็นอนุสรณ์สถานจนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 1 ประตูชัยฝรั่งเศสมีความสูง 49.5 เมตร  กว้าง 45 เมตร และลึก 22 เมตร  เป็นประตูชัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน แบบของประตูชัยฝรั่งเศสนี้ได้แนวความคิดมาจากประตูชัยไตตัส ประตูชัยฝรั่งเศสมีความใหญ่มาก เพราะหลังจากมีการสวนสนามในปรุงปารีสเมื่อปี พ.ศ. 2462 ชาร์ลส์ โกดฟรัว ได้ขับเครื่องบินนีอูปอร์ต ผ่านกลางประตูชัยฝรั่งเศสเพื่อเป็นการสดุดีเหล่าทหารอากาศที่ได้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1

ฝรั่งเศส ประตูชัย

ฝรั่งเศส ประตูชัย

ฝรั่งเศส ประตูชัย

ฝรั่งเศส ประตูชัย

Muséedu Louvre

          พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée  de Louvre) ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวจีน-อเมริกันชื่อ ไอ. เอ็ม. เป พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด และยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความเก่าแก่ที่สุดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมเมื่อปี พ.ศ. 2336 มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา และเมื่อในปี พ.ศ. 2549 นั้นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากถึง 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส

 

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

Notre Dame de Paris

        มหาวิหารนอเทรอดาม (Cathédrale Notre Dame de Paris) เป็นมหาวิหารสมัยกอธิค ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มหาวิหารนอเทรอดามนั้นถือได้ว่าเป็นวัดที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอธิคแบบฝรั่งเศส วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์โดยเออแชน วียอเลต์ เลอ ดุค ผู้เป็นสถาปนิกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของฝรั่งเศส
        มหาวิหารนอเทรอดาม เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1163 ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ส่วนที่จะว่าใครเป็นผู้วางศิลาฤกษ์นั้นไม่แน่ บางหลักฐานก็ว่าบิชอปซุลยีเอง บางหลักฐานก็ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 3เป็นผู้วาง แต่ที่แน่คือทั้งคนเข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ ตั้งแต่นั้นมาบิชอปซุลยีก็อุทิศชีวิตให้กับการสร้างมหาวิหารนี้
เริ่มการก่อสร้างทางด้านหน้าหรือด้านตะวันตก ซึ่งมีหอคอยสองหอ เมื่อราวปี ค.ศ. 1200 ก่อนที่จะสร้างโถงกลางของตัววัดเสร็จ ซึ่งไม่ตรงกับหลักการสร้างสิ่งก่อสร้างตามแบบฉบับ วัดนี้มีสถาปนีกหลายคนที่มีส่วนในการก่อสร้าง จะเห็นได้จากความเปลี่ยนแปลงของรูปทรงไปตามสมัยนิยมของสถาปนิก เป็นต้นว่าหอสองหอทางด้านตะวันตกจะไม่เท่ากัน

มหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีส

มหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีส

มหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีส

มหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีส

มหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีส

มหาวิหารนอเทรอดามแห่งปารีส


Les Corps humain

คำศัพท์ เกี่ยวกับร่างกาย ภาษาฝรั่งเศส        

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Les Jours et Les Mois

jour (ฌูค์) วัน

lundi  (เลิง ดิ)  วันจันทร์
mardi  (มาค์ ดิ) วันอังคาร
mercredi  (แม็ค เครอ ดิ)  วันพุธ
jeudi  (เฌอ ดิ)  วันพฤหัส
vendredi  (วอง เดรอ ดิ)  วันศุกร์
samedi  (ซาม ดิ)  วันเสาร์
dimanche  (ดิ ม็องช์)  วันอาทิตย์

mois (มัว)  เดือน

Janvier   (ฌอง วิ เย่)  มกราคม
Février  (เฟบ วิ เคร่)  กุมภาพันธ์
Mars  (มาคส์)  มีนาคม
Avril  (อา วรีญ)  เมษายน
Mai  (เม)  พฤษภาคม
Juin  (ฌู แอง)  มิถุนายน
Juillet  (ฌุย เย่)  กรกฎาคม
Août  (อุ๊ต)  สิงหาคม
Septembre  (เซตตอมเบรอะ)  กันยายน
Octobre  (อ็อคตอมเบรอะ)  ตุลาคม
Novembre  (โนวอมเบรอะ)  พฤศจิกายน
Décembre  (เดซอมเบรอะ)  ธันวาคม



Les Professions

        Les professions คำศัพท์เกี่ยวกับอาชีพ        
Nom de profession masculin / féminin
คำนามอาชีพเพศชาย / เพศหญิง
Prononciation
คำอ่าน
Sens
ความหมาย
acteur / actriceอัก-เตอร์ / อัก-ทริซ(เซอ)นักแสดง
agent de police [n.m.]อะ-ชอง เดอ โป-ลิส(เซอ)เจ้าหน้าที่ตำรวจ
agriculteur / agricultriceอะ-กริ-กืล-เตอร์์ / อะ-กริ-กืล-ทริซ(เซอ)เกษตรกร
architecte [n.m. / n.f.]อะ-ชิ-เตก(เกอ)สถาปนิก
artisan / artisane
อาร์-ติ-ซอง / อาร์-ติ-ซาน(เนอ)
ช่างฝีมือ
artiste [n.m. / n.f.]อาร์-ติส(เตอ)ศิลปิน
avocat / avocate
อะ-โว-กา / อะ-โว-กัต(เตอ)
ทนายความ, นักกฎหมาย
banquier / banquière
บอง-กิ-เย / บอง-กิ-แย(เรอ)
นายธนาคาร, ผู้จัดการธนาคาร
bibliothéjcaire [n.m. / n.f.]บิ-บลิ-โอ-เต-แก(เลอ)บรรณารักษ์
bijoutier / bijoutière
บิ-ชู-ติ-เย / บิ-ชู-ติ-แย(เรอ)
ช่างทำ หรือ คนขายเครื่องประดับและทอง
blanchisseur / blanchisseuseบลอง-ชิส-เซอร์ / บลอง-ชิส-เซิส(เซอ)ช่างซักรีด
boutiquier / boutiquière
บู-ติ-กิ-เย / บู-ติ-กิ-แย(เรอ)
เจ้าของร้านขายของ
boulanger / boulangèreบู-ลอง-เช / บู-ลอง-แช(เรอ)คนทำ หรือ คนขายขนมปัง
boucher / bouchère
บู-เช / บู-แช(เรอ)
คนขายเนื้อ (วัว และ ม้า)
caissier / caissière
เกส-ซิ-เย / เกส-ซิ-แย(เรอ)
พนักงานรับจ่ายเงิน, แคชเชียร์
chanteur / chanteuseชอง-เตอร์ / ชอง-เติส(เซอ)นักร้อง
charcutier / charcutièreชาร์-กือ-ทิ-เย / ชาร์-กือ-ทิ-แย(เรอ)คนขายเนื้อหมูและผลิตภัณท์จากเนื้อหมู
chauffeur de taxiโช-เฟอร์ เดอ ตั๊ก-ซี่คนขับรถแท๊กซี่รับจ้าง
cheminot [n.m.]เชอ-มิ-โนพนักงานรถไฟ
chirurgien [n.m.]ชี-รือร์-เชียงศัลยแพทย์, หมอผ่าตัด
cinéaste [n.m. / n.f.]ซิ-เน-อาส(เตอ)ผู้สร้างภาพยนต์
coiffeur / coiffeuseก๊วฟ-เฟอร์ / ก๊วฟ-เฟิซ(เซอ)ช่างตัดผม, ช่างทำผม
comédien / comédienneโก-เม-เดียง / โก-เม-เดี้ยน(เนอ)นักแสดง(ละคร)
commerçant / commerçante
กอม-แมร์-ซอง / กอม-แมร์-ซอง(เตอ)
พ่อค้า, แม่ค้า, ผู้ขาย
comptable [n.m. / n.f.]กอง-ตาบ(เบลอ)สมุห์บัญชี, พนักงานบัญชี
concierge [n.m. / n.f.]กง-ซิ-แอช(เชอ)คนดูแลอาคารหรือห้องชุด
confiseur / confiseuseกง-ฟิิ-เซอร์ / กง-ฟิ-เซิส(เซอ)คนขายลูกอม, ลูกกวาด, ช็อกโกแลต
constructeur / constructriceกง-สทรืก-เตอร์์ / กง-สทรืก-ทริซ(เซอ)ผู้ผลิต, ผู้สร้าง
couturier / couturièreกู-ตือ-ริ-เย / กู-ตือ-ริิ-แย(เรอ)ช่างตัดเสื้อสตรี, ดีไซเนอร์
crémier / crémière
เคร-มิ-เย / เคร-มิ-แย(เรอ)
ูคนขายนม, เนย, ไข่
cuisinier / cuisinièreกุย-ซิ-นิ-เย / กุย-ซิ-นิ-แย(เรอ)พ่อครัว / แม่ครัว
cultivateur / cultivatriceกุล-ติ-วา-เตอร์ / กุล-ติิ-วา-ทริซ(เซอ)เกษตรกร
dactylographe, dactylo [n.m. / n.f.]
ดัก-ติ-โล-กราฟ(เฟอ), ดัก-ติ-โล
พนักงานพิมพ์ดีด
danseur / danseuseดอง-เซอร์ / ดอง-เซิส(เซอ)นักเต้น, นักรำ
décorateur / décoratriceเด-กอ-รา-เตอร์ / เด-กอ-รา-ทริส(เซอ)นักตกแต่ง, มัณฑนากร
dentiste [n.m. / n.f.]ดอง--ติส(เตอ)ทันตแพทย์
détaillant / détaillanteเด-ตาย-ยอง(เตอ) / เด-ตาย-ยอง(เตอ)พ่อค้า, แม่ค้าขายปลีก
écrivain / écrivaine [เพศหญิงยังมีไม่นานนัก]เอ-ครี-แวง / เอ-ครี-แวน(เนอ)นักเขียน
électricien / électricienne
เอ-เล-ทริ-เซียง / เอ-เล-ทริ-เซียน(เนอ)
ช่างไฟฟ้า
éleveur / éleveuse (de poissons, ...)เอ-เลอ-เวอร์ / เอ-เลอ-เวิส(เซอ)ผู้เลี้ยง (ปลา, ...)
employé / employéeออง-ปลัว-เย่พนักงาน, ลูกจ้าง
épicier / épicièreเอ-ปิ-ซิ-เย / เอ-ปิ-ซิิ-แย(เรอ)คนขายของชำ
fabricant / fabricanteฟา-บริ-กอง / ฟา-บริ-กอง(เตอ)ผู้ผลิต
facteur [n.m.]ฟัก-เตอร์บุรุษไปรณีย์
femme de ménage [n.f.]ฟาม(เมอ) เดอ เม-นาช(เชอ)ผู้หญิงรับจ้างทำงานบ้านหรือทำความสะอาด
fermier / fermièreแฟร์-มิ-เย / แฟร์-มิ-แย(เรอ)คนทำฟาร์ม, เกษตรกร
fleuriste [n.m. / n.f.]เฟลอ-ริส(เตอ)คนขายดอกไม้
fonctionnaire [n.m. / n.f.]ฟง-ซิ-ยอน-แน(เรอ)ข้าราชการ
fruitier / fruitièreฟรุย-ทิ-เย / ฟรุย-ทิ-แย(เรอ)คนขายผลไม้
garagiste [n.m. / n.f.]กา-รา-ชิส(เตอ)ช่างซ่อมรถยนต์, เจ้าของอู่รถ
gardien / gardienneการ์-เดียง / การ์-เดียน(เนอ)ยาม, ผู้รักษาความปลอดภัย
gendarme [n.m.]ชอง-ดาร์ม(เมอ)ตำรวจ
grossiste [n.m. / n.f.]โกรส-ซิส(เตอ)พ่อค้าขายส่ง
guide [n.m. / n.f.]กีด(เดอ)มัคคุเทศก์, ไกด์
horloger / horlogèreออร์-ลอ-เช / ออร์-ลอ-แช(เรอ)ช่างทำหรือช่าซ่อมนาฬิกา
hôtelier / hôtelièreโอ-แตล-ลิ-เย / โอ-แตล-ลิ-แย(เรอ)ผู้บริหารโรงแรม
hôtesse de l'air [n.f.]โอ-แตส เดอ แลร์พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน(หญิง)
industriel [n.m.]แอง-ดืส-ทริ-แอลนักอุตสาหกรรม
ingénieur [n.m.]แอง-เช-นิ-เยอวิศวกร
infirmier / infirmièreแอง-เฟียร์-มิ-เย / แอง-เฟียร์-มิ-แย(เรอ)บุรุษพยาบาล / นางพยาบาล
informaticien / informaticienneแอง-ฟอร์-มา-ติ-เซียง / แอง-ฟอร์-มา-ติ-เซียน(เนอ)ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์, วิศวกรคอมพิวเตอร์
instituteur / institutriceแอง-สติ-ตือ-เตอร์ / แอง-สติ-ตือ-ทริซ(เซอ)ครูอนุบาลหรือประถม
interprèteแอง-แตร์-แพร๊ต(เตอ)ล่าม
jardinier / jardinièreชา-ดิ-นิ-เย / ชา-ดิ-นิ-แย(เรอ)คนทำสวน
joaillier / joaillièreโช-ไอ-ยิ-เย / โช-ไอ-ยิ-แย(เรอ)ช่างทำหรือพ่อค้าเพชรพลอย
journaliste [n.m. / n.f.]ชูร์-นา-ลิส(เตอ)นักข่าว, นักหนังสือพิมพ์
libraire [n.m. / n.f.]ลิ-แบร(เรอ)คนขายหรือเจ้าของร้านหนังสือ
livreur / livreuseลิ-เวรอร์ /ลิ-เวริส(เซอ)คนส่งของร้านค้า
maître d'hôtel [n.m.]แม๊ต(เทรอ) โด-แตลกัปตันร้านอาหาร
mannequin [n.m.]มาน(เนอ)-แก็งนายแบบ, นางแบบเดินแสดงแบบเสื้อผ้า
maraîcher / maraîchèreมา-แรช-เช / มา-แรช-แช(เรอ)คนปลูกผัก
marchand / marchande (de fruits, ...)มาร์-ชอง / มาร์-ชอง(เดอ)พ่อค้า, แม่ค้า, ผู้ขาย (ผลไม้,...)
mécanicien / mécanicienneเม-กา-นิ-เซียง / เม-กา-นิ-เซียน(เนอ)ช่างซ่อมรถยนต์, พนักงานขับรถไฟ
menuisier [n.m]เมอ-นุย-ซิ-เยช่างไม้, ช่างเฟอร์นิเจอร์
médecin [n.m]เมด-แซงหมอ, แพทย์
metteur en scène / metteuse en scèneเมต-เตอร์ ออง แซน(เนอ) / เมต-เติส(เซอ) ...ผู้กำกับภาพยนต์
moniteur / monitrice (d'auto-école, ...)โม-นิ-เตอร์ / โม-นิ-ทริซ(เซอ)ครูฝึก, ผู้ฝึกสอน เช่นครูสอนขับรถ
musicien / musicienneมือ-สิ-เซียง / มือ-สิ-เซียน(เนอ)นักดนตรี
négociant / négocianteเน-โก-ซิ-ยอง / เน-โก-ซิ-ยอง(เตอ)พ่อค้า, แม่ค้า
opérateur / opératriceโอ-เป-รา-เตอร์ / โอ-เป-รา-ทริซ(เซอ)พนักงานรับโทรศัพท์
opticien / opticienneออป-ติ-เซียง / ออป-ติ-เซียน(เนอ)ช่างวัดและตัดแว่นสายตา์
orfèvre [n.m]ออ-แฟฟ(เวรอ)ช่างเงินช่างทอง
ouvrier / ouvrièreอู-วริ-เย / อู-วริ-แย(เรอ)กรรมกร, ผู้ใช้แรงงาน
papetier / papetièreปา-เป็ต-ติ-เย / ปา-เป็ต-ต-แย(เรอ)คนขายหรือเจ้าของร้านเครื่องเขียน
parfumeur / parfumeuseปาร์-ฟืม-เมอร์ / ปาร์-ฟืม-เมิส(เซอ)ผู้ผลิตหรือขายนํ้าหอม
pâtissier / pâtissièreปา-ติส-สิ-เย / ปา-ติส-สิ-แย(เรอ)คนขายหรือคนทำขนมเบเกอรีหรือขนมหวาน
peintre [n.m.]แป๊ง(เทรอ)จิตรกร, ช่างทาสี
photographe [n.m. / n.f.]โฟ-โต-กร๊าฟ(เฟอ)ช่างภาพ
pilote [n.m. / n.f.]ปิ-ล๊อต(เตอ)นักบิน, นักขับรถแข่ง, คนนำร่องตามท่าเรือ
plombier [n.m.]ปลง-บิ-เยช่างประปา
pompier [n.m.]ปง-ปิ-เยพนักงานดับเพลิง
postier / postièreโปส-ติ-เย / โปส-ติ-แย(เรอ)พนักงานไปรษณีย์
présentateur / présentatriceเพร-ซอง-ตา-เตอร์ / เพร-ซอง-ตา-ทริซ(เซอ)โฆษก, พิธีกร, ผู้นำเสนอรายการ
professeur [n.m]โพร-เฟส-เซอร์อาจารย์โรงเรียนมัธยมหรือมหาวิทยาลัย
quincaillier / quincaillièreแกง-ไก-ยิ-เย / แกง-ไก-ยิ-แย(เรอ)คนขายเครื่องเหล็ก
réalisateur / réalisatriceเร-อัล-ลิ-ซา-เตอร์ / เร-อัล-ลิ-ซา-ทริซ(เซอ)ผู้กำกับภาพยนต์
reporter [n.m.]เรอ-ปอร์-แตร์ผู้รายงานข่าว
secrétaire [n.m. / n.f.]เซอ-เคร-แต(เรอ)เลขานุการ
serveur / serveuseแซร์-เวอร์ / แซร์-เวิส(เซอ)บริกร, พนักงานเสิร์ฟ
steward [n.m.]สจู-วาร์ต (หรือ) สติ-วาร์ตสจ๊วต, พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน(ชาย)
styliste [n.m. / n.f.]สติ-ลิส(เตอ)นักออกแบบเสื้อผ้าหรือเครื่องเรือน
tailleur [n.m.]ไต-เยอร์ช่างตัดเสื้อผ้าผู้ชาย
technicien / technicienneเต็ก-นิ-เซียง / เต็ก-นิ-เซียน(เนอ)ช่างเทคนิค, ผู้ชำนาญการทางช่าง
teinturier / teinturièreแต๊ง-ตือ-ริ-เย / แต๊ง-ตือ-ริ-แย(เรอ)ช่างหรือเจ้าของร้านซักรีด
tisserand / tisserandeติส-เซอ-รอง / ติส-เซออ-รอง(เดอ)ช่างทอผ้า

 

L'école

1.une table (อวีนต๊าบ(เบลอะ)) โต๊ะ
2.un papier (เอิง ปาปิเย่) กระดาษ
3.un stylo (เอิง สตีลโล) ปากกา
4.un bureau (เอิง บูว์โค) โต๊ะหรือห้องทำงาน
5.un ventilateur (เอิง วองติลาเตอ) พัดลม
6.une voiture (อวีน โวจูว์) รถยนต์
7.un mur (เอิง เมอค์) กำแพง
8.une trousse (อวีน ทรูส) กระเป๋าดินสอ
9.une gomme (อวีน กอม) ยางลบ
10. un arbre (เอิง นาบ(เบรอะ)) ต้นไม้     *ออกเสียงเชื่อม
11.un fleur (เอิง เฟลอค์) ดอกไม้
12.une vase (อวีน วาส) แจกัน
13.un salle (เอิง ซาล) ห้อง
14.une cuisine (อวีน กวุยซีน) ห้องครัว
15.une classe (อวีน กลาส) ห้องเรียน
16.une maison (อวีน เมซง) บ้าน
17.un radio (เอิง คาดิโอ) วิทยุ
18.une jupe (อวีน ฌุป) กระโปรง
19.un t-shirt (เอิง ทีเชิ้ต) เสื้อยืด
20.un gâteau (เอิง กาโต้) ขนม
21.un croissant (เอิง โครซอง) ครัวซอง
22.une baguette (อวีน บาแก็ต) บาแก็ตต์ *ขนมปังยาวๆ แข็งๆอ่ะ
23.une école (อวีน เนกอล) โรงเรียน
24.un livre (เอิง ลีฟ(เวรอะ)) หนังสือ
25.un livre de français (เอิง ลีฟ เดอ ฟรองเซ่) หนังสือเรียนฝรั่งเศส
26.un professeur (เอิง โปร์เฟสเซอ) ครู
27.un ordinateur (เอิง น็อคดินาเตอ) คอมพิวเตอร์
28.un manteau (เอิง มองโต) เสื้อกันหนาว
29.un chaussure (เอิง โชสซูค์) รองเท้า
30.un tableau (เอิง ต๊าบโบล) กระดาน
31.une montre (อวีน มง(เทรอะ)) นาฬิกาข้อมือ
32.une chaisee (อวีน เชส) เก้าอี้
33.un tableau (เอิง ต๊าบโบล) ภาพวาด
34.un photo (เอิง โฟโต้) รูปถ่าย
35.une Tour Eiffel (อวีน ตุค เอฟเฟล) หอไอเฟล
36.un bonbon (เอิง บงบง) ลูกอม
37.un jardin  (เอิง ฌาค์แด็ง) สวน
38.une femme (อวีน ฟาม) ผู้หญิง
39.un homme (เอิง นอม) ผู้ชาย
40. un coq / une poulet (เอิง ก็อก/อวีน ปลูเล่) ไก่  

La famille

คำศัพท์ครอบครัว La famille      คำศัพท์ครอบครัว La famille

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์เรียนภาษาฝรั่งเศสโรงเรียนราชินีบูรณะ

l'arrière-grand-père [n.m]
ลา-ริ-แย กรอง-แป(เรอ)
ปู่ทวด, ตาทวด
l'arrière-grand-mère [n.f]
ลา-ริ-แย กรอง-แม(เรอ)
ย่าทวด, ยายทวด
les arrière-grands-parents
เล ซา-ริ-แย กรอง-ปา-รอง
ปู่ทวดย่าทวด, ตาทวดยายทวด
l'arrière-petit-fils [n.m]
ลา-ริ-แย เปอ-ติ-ฟิส
หลานทวด(ชาย)
l'arrière-petite-fille [n.f]
ลา-ริ-แย เปอ-ติ๊ต-ฟี(เยอ)
หลานทวด(หญิง)
les arrière-petits-enfants
ลา-ริ-แย เปอ-ติ-ซอง-ฟอง
หลานทวด
le grand-père, le papi [papy]
เลอ กรอง-แป(เรอ), เลอ ปา-ปิ
ปู่, ตา
la grand-mère, la mamie [mamy]
ลา กรอง-แม(เรอ), ลา มา-มิ
ย่า, ยาย
les grands-parents
เล กรอง-ปา-รอง
ปู่ย่า, ตายาย
le père, le papa
เลอ แป(เรอ), เลอ ปา-ปา
พ่อ
la mère, la maman
ลา แม(เรอ), ลา มา-มอง
แม่
les parents
เล ปา-รอง
พ่อแม่
le parent
เลอ ปา-รอง
ญาติ, ผู้ปกครอง
le bébé
เลอ เบ-เบ
เด็กอ่อน, เด็กเล็ก
l'enfant [n.m. et n.f.]
ลอง-ฟอง
ลูก, เด็ก
le, la môme [n.m. et n.f.]
เลอ, ลา โมม(เมอ)
ลูก, เด็ก
le fils
เลอ ฟิสส์
ลูกชาย
le fils unique
เลอ ฟิสส์ อือ-นิก(เกอ)
ลูกชายคนเดียวของครอบครัว
la fille
ลา ฟี(เยอ)
ลูกสาว, เด็กผู้หญิง
la fille unique
ลา ฟี(เยอ) อือ-นิก(เกอ)
ลูกสาวคนเดียวของครอบครัว
le garçon
เลอ การ์-ซง
เด็กผู้ชาย, เด็กหนุ่ม
le frère
เลอ แฟร(เลอ)
พี่ชาย หรือ น้องชาย
le petit-frère / le grand-frère
เลอ เปอ-ติ-แฟร(เลอ) / 
เลอ กรอง-แฟร(เลอ)
น้องชาย / พี่ชาย
les frères jumeaux
เล แฟร(เลอ) ชู-โม
พี่น้องฝาแฝด(ชาย)
le demi-frère
เลอ เดอ-มิ-แฟร(เลอ)
พี่ชาย หรือ น้องชายต่างบิดาหรือมารดา
la soeur
ลา เซอร์
พี่สาว หรือ น้องสาว
la petite-soeur / la grande-soeur
ลา เปอ-ติ๊ต-เซอร์ / ลา กรอง-เซอร์
น้องสาว / พี่สาว
les soeurs jumelles
เล เซอร์ ชู-แมล(เลอ)
พี่น้องฝาแฝด(หญิง)
la demi-soeur
ลา เดอ-มิ-เซอร์
พี่สาว หรือ น้องสาวต่างบิดาหรือมารดา
les petits-enfants
เล เปอ-ติ-ซอง-ฟอง
หลาน (ของปู่ย่า, ตายาย)
le petit-fils
เลอ เปอ-ติ-ฟิสส์
หลานชาย (ของปู่ย่า, ตายาย)
la petite-fille
ลา เปอ-ติ๊ต-ฟี(เยอ)
หลานสาว (ของปู่ย่า, ตายาย)
l'oncle, le tonton
ลง(เคลอะ), เลอ ตง-ตง
ลุง
la tante, la tata
ลา ต๊อง(เตอ), ลา ตา-ตา
ป้า
le neveu
เลอ เนอ-เวอ
หลานชาย (ของลุง, ของป้า)
la nièce
ลา นิ-แอส(เซอ)
หลานชาย (ของลุง, ของป้า)
le cousin
เลอ กู-แซง
ญาติ, ลูกพี่ลูกน้อง (ผู้ชาย)
la cousine
ลา กู-ซิน(เนอ)
ญาติ, ลูกพี่ลูกน้อง (ผู้หญิง)